ลืม password | สมัครสมาชิก
วันที่: 2018-02-26 08:51:37.0view 618reply 0
จะรู้ได้อย่างไรว่า ติดยา หรือ ไม่ติดยา จะมีเกณฑ์การวินิจฉัยดังนี้ การใช้สารเสพติดจนเกิดปัญหา (substance abuse) (เกณฑ์นี้บอกว่าการใช้สารเสพติดได้เกิดผลกระทบแล้วหรือยัง) หากเมื่อมีการใช้สารเสพติดไม่ว่าตัวใดก็ตาม แล้วก่อให้เกิดความเสียหายหรือผลเสียต่อตัวเอง ดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 1 ข้อ 1. มีการใช้สารเสพติดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ อาจเป็นทุกวัน ทุก 3-4 วัน ทุกสัปดาห์ ซึ่งทำให้ไม่สามารถทำงานต่างๆได้เต็มที่ เช่น หน้าที่การงาน การเรียน หรืองานบ้าน 2. มีการใช้สารเสพติดอย่างต่อเนื่อง ในสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เช่น ขับรถขณะมึนเมา ใช้ยาบ้าจนน้ำหนักตัวลดมากหรืออดนอนจนอ่อนเพลียมาก 3. ก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายจากการใช้สารเสพติด เช่น ถูกจับกุม 4. มีการใช้สารเสพติดอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสารเสพติดนั้นจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆในด้านสังคม หรือความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เช่น การทะเลาะเบาะแว้งกับคนในครอบครัว ถูกต่อว่าเรื่องการเสพสารเสพติด ภาวะติดสารเสพติด (substance dependence) หากเมื่อมีการใช้สารเสพติดไม่ว่าตัวใดก็ตาม แล้วก่อให้เกิดความเสียหายหรือผลเสียต่อตัวเอง ดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 3 ข้อ 1. มีการดื้อยา ตามข้อใดข้อหนึ่งดังนี้ - ต้องการที่จะใช้สารนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อให้ได้ฤทธิ์ยาที่ต้องการ - ผลของสารนั้นลดลงไปมาก เมื่อใช้ยาต่อเนื่องในจำนวนเท่าเดิม (ดังนั้นผู้เสพติดจะต้องเพิ่มปริมาณสารที่ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ) 2. มีอาการขาดยา ตามข้อใดข้อหนึ่งดังนี้ - เกิดกลุ่มอาการขาดยา เช่น ในยาบ้า/ยาไอซ์ มีอาการง่วงนอน หมดแรง ฝันร้าย - มีการใช้สารนั้นเพื่อหลีกเลี่ยง หรือบรรเทาอาการขาดยา 3. มักจะใช้สารนั้นในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น หรือใช้ติดต่อกันนานมากกว่าที่คิดไว้ 4. ต้องการใช้สารนั้นอยู่ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง หรือมักไม่สำเร็จในการพยายามที่จะหยุดหรือเลิกใช้สารนั้น (หยุดได้เพียงไม่กี่วันหรือกี่เดือน ก็ถือว่าเลิกไม่สำเร็จ) 5. เสียเวลาในแต่ละวันหมดไปกับกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ได้สารนั้นมา เสียเวลาเพื่อเสพสารหรือในการฟื้นจากผลของสารนั้น 6. การใช้สารนั้นมีผลทำให้กิจกรรมสำคัญในด้านสังคม อาชีพ การดูแลตัวเองเสื่อมลง 7. มีการใช้สารนั้นอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าจะรู้ว่าสารนั้นๆ ก่อให้เกิดปัญหาทางกายและจิตใจอยู่เป็นประจำก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตพบได้ในผู้ติดยาเสพติด การเปลี่ยนแปลงทางด้านรางกาย - สุขภาพทรุดโทรม ผอมซูบ ซีด น้ำหนักลด ไม่มีเรี่ยวแรง ริมผีปากเขียวซ้ำ แห้ง แตก - ม่านตาขยายสู้แสงจ้าไม่ได้ ซึ่งเป็นผลจากการเสพยา จึงมักใส่แว่นตากันแดดอยู่เสมอ - น้ำมูก น้ำตาไหล มีเหงื่อออกมาก กลิ่นตัวแรง เพราะไม่ทำความสะอาดร่างกายตัวเอง - นิ้วมือ มีรอยคราบเหลือง สกปรก เนื่องจากการสูบ - ผิวหนังหยาบกร้าน เช่น แผลพุพองอาจมีหนอง น้ำเหลือง คล้ายโรคผิวหนังเนื่องจากขาดวิตามิน - ใบหน้าดำคล้ำโดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้มและหน้าผาก - มีอาการอยากยา ซึ่งยาเสพติดแต่ละประเภทมีอาการหลังเสพและอาการเมื่ออยากยาหรือขาดยาแตกต่างกัน การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจและอารมณ์ • อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย เช่น เวลาขาดยาจะรู้สึกหงุดหงิดมาก แต่เมื่อเสพยาแล้วอารมณ์จะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว • นิสัยเปลี่ยนไป เช่น จากคนเรียนร้อยกลายเป็นคนก้าวร้าว • ไม่มีความเชื่อมั่นในตนเอง บุคลิกลักษณะเชื่อถือไม่ได้ • มีความคิดเชื่องช้า สติปัญญาเสื่อมลง ความจำเสื่อม ทำให้การเรียนหรือการงานบกพร่อง • มีความรู้สึกไม่ปลอดภัย หวาดระแวง • อารมณ์ฉุนเฉียว ชวนทะเลาะวิวาทและทำร้ายกัน ขาดความอดกลั้น เป็นคนเจ้าอารมณ์หงุดหงิด เอาแต่ใจตนเอง ขาดเหตุผล • มีความวิตกกังวลซึมเศร้า • อยู่นิ่งไม่ได้ หลุกหลิก บางรายชอบเดินไปมา การเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมสังคม • มีพฤติกรรมชอบเก็บตัว เงียบขรึม มักอยู่คนเดียว ปลีกตัวจากผู้อื่นทำตัวลึกลับ ไม่รับรู้ความเป็นไปใดๆ • มีพฤติกรรมใช้เงินเปลืองผิดปกติ • มีพฤติกรรมลักขโมย • มีพฤติกรรมก้าวร้าว • มีพฤติกรรมเกียจคร้าน • มีพฤติกรรมคบแต่เพื่อนที่เสพยาด้วยกัน อาจเป็นเพื่อนกลุ่มใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มีการคุยกันลึกลับและเป็นความลับ เครดิต: ข้อมูลจาก ศูนย์บำบัดรักษายาเสพติด เชียงใหม่ การเลิกบุหรี่.com 088-322-6116